julaza456




วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

​7 สุดยอดนักเตะ “เท้าโคตรหนัก” แห่งวงการฟุตบอล

เป็นที่รู้กันโดยสามัญสำนึกอยู่แล้วว่า “นักฟุตบอล” นั้นเป็นมนุษย์ที่มีกำลังขาเหนือกว่าชาวบ้านอยู่มากโข เนื่องจากเป็นอาชีพการงานที่ต้องใช้ขาเป็นหลัก
แต่สำหรับ นักเตะทั่วไปที่มีพละกำลังในการยิงประตูเหนือล้ำกว่ามนุษย์ปกติแล้ว ก็ยังมีผู้เล่นบางคนที่ก้าวข้ามขีดจำกัดและอยู่เหนือขึ้นไปกว่านั้นอีกในเรื่องของพลังในการยิงประตู ซึ่งพวกเขามักจะแสดงให้เราได้เห็นอยู่บ่อย ๆ ยามโลดแล่นบนสนาม
ทันทีที่เขาหวดบอลเต็มข้อด้วยหลังเท้า บอลที่พุ่งออกไปกระทบตาข่ายแบบเต็มแรงนั้นแหละเป็นเครื่องชี้วัดได้ดีที่สุดว่าใคร “ตีนหนัก” กว่ากันและนี่คือ 7 สุดยอดนักเตะที่ “เท้าโคตรหนัก” ที่สุดแห่งวงการฟุตบอล
7. ​สตีเวน เจอร์ราร์ด
กัปตันมาร์เวลของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คนนี้เป็นมิดฟิลด์คนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่า “เท้าหนัก” สุด ๆ
เพราะสตีเวน เจอร์ราร์ด คนนี้มักจะตะบันเต็มข้อส่งลูกเข้าประตูไปอย่างสุดสวยได้บ่อย ๆ แถมลูกยิงของเขานั้นทั้งแรง ทั้งเร็ว ทั้งหนักหน่วง แบบที่ว่าไม่ต้องเอาตัวเองไปยืนบังเพื่อพิสูจน์ความโหดแม้แต่น้อย
6. ​เอ็ดการ์ ดาวิดส์

มิดฟิลด์ตัวรับจากแดนกังหันคนนี้ ทั่วโลกต่างยอมรับเขาในเรื่องของความโหด การเล่นเกมรับที่ดุดันกัดไม่ปล่อย คนสื่อต่างชาติให้ฉายาว่า “เดอะ พิทบูล”
แต่นอกจากสไตล์การเล่นของเขาแล้ว เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ยังมีลูกยิงอันหนักหน่วงรุนแรงแบบที่ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนอยากจะยื่นสุดแขนเข้าไปปัด โดยเฉพาะถ้าเขาคนนั้นเคยเล่นวินนิ่งฯ มาก่อน
เพราะค่าพลังในการยิงแรงของ มิดฟิลด์ใส่แว่นคนนี้มีคำพูดติดปากกันว่า “คิก 9” (ความแรงสูงสุด) เลยทีเดียว !
5. ​สลาตัน อิบราฮิโมวิช

อีกหนึ่งนักเตะเชิงสูงระดับโลกของทีมชาติสวีเดนที่ขึ้นชื่อว่า “กวน” สุด ๆ คนนี้ มีพลังในการยิงประตูอันแสนหนักหน่วง ทุกเค้าที่ สลาตัน ยิงตะบันเต็มข้อ บอลจะพุ่งเร็ว แรง หนัก จนยากที่จะมีใครพุ่งปัดได้ทัน
แถมนอกจากจะยิงแบบบ้าพลังได้แล้ว สไตรเกอร์บารมีแชมป์คนนี้ยังยิงประตูด้วยเทคนิคต่าง ๆ ได้อีกมากมายจนถือว่าเป็นหนึ่งในศิลปินลูกหนังของยุคนี้เลยทีเดียว
อ้อ ลืมบอกไปว่าเคล็ดลับที่ทำให้เจ้าสลาตัน “ตีนหนัก” ได้ขนาดนี้ ก็เพราะว่าเขาเป็นนักเทควันโดระดับ “สายดำ” ด้วยนะจะบอกให้ 
4. ​ยอห์น อาร์เน ริเซ

แบ๊คซ้ายจอมบุกหนึ่งในอดีตนักเตะขวัญใจแฟนบอลของทีมหงส์แดงคนนี้ เปี่ยมไปด้วยพละกำลังอันล้นเหลือ ทั้งวิ่งขึ้นลงจากหลังไปหน้า หน้ามาหลัง ได้อย่างไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย แถมยังมีเท้าซ้ายที่หวดบอลออกไปด้วยความเกรี้ยวกราดเป็นท่าไม้ตาย
ทุกประตูที่ ริเซ คนนี้ยิงได้ มักจะเป็นการตะบันเต็มข้อแทบทั้งนั้น และถ้าตรงกรอบก็หวังเป็นประตูได้เกือบทุกที
ครั้งหนึ่งเขาเคยยิงลูกฟรีคิกไปโดน อลัน สมิธ นักเตะของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด “ขาหัก” คาสนามมาแล้ว จนได้รับฉายาที่สมกับความถึกว่า “ริเซตีนควาย”
3. ​โรแบร์โต คาร์ลอส

อีกหนึ่งแบ็คซ้ายในตำนานของวงการฟุตบอล เขาคนนี้มีความเร็วในระดับที่เรียกว่า “สปีด 9” เท่านั้นยังไม่พอ “คิก” ก็ยัง “9” อีกด้วย
ความหนักหน่วงในการยิงประตูด้วยพลังจากกล้ามเหนือขาที่เหมือนกับของสัตว์ป่านั้น เคยมีคนทำวิจัยเอาไว้ว่า หากใครโดน โรแบร์โต คาร์ลอส ยิงบอลอัดล่ะก็ จะเจ็บหนักเหมือนโดน มอเตอร์ไซค์ชน เลยทีเดียว
และลูกยิงที่กลายเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลกก็คือวันที่เขายิงฟรีคิกด้วยเท้าซ้าย บอลโค้งอ้อมกำแพงด้วยความรุนแรงพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเหลือเชื่อจนกลายเป็นหนึ่งประตูคลาสสิกตลอดการของวงการฟุตบอลไปทันที
2. ​คริสเตียโน โรนัลโด

สำหรับนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกคนนี้แล้ว จะไม่พูดถึงก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเจ้าหนูโด้นั้นเป็นผู้ที่มีลูกยิงไกลอันหนักหน่วงเป็นท่าไม้ตายเฉพาะตัวของเขาซึ่งไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้
การยิงไกลตะบันเต็มข้อของ โรนัลโด้ นั้นหนักหน่วง รุนแรง และทิศทางก็ดี สมบูรณ์แบบสุด ๆ แต่ที่ทำให้มันกลายเป็นลูกเหนือโลกขึ้นไปอีกขั้นก็คือบอลนั้นจะพุ่งแบบไม่หมุนทำให้มีการส่ายเพิ่มขึ้นมาอีก
บอกเลยว่าถ้า โรนัลโด้ กดสูตรติดเมื่อไหร่ล่ะก็ ผู้รักษาประตูไม่จำเป็นต้องพุ่งปัดให้เมื่อยปล่อยให้เข้าไปเฉย ๆ เลยยังจะง่ายกว่า
1. ​กาเบรียล บาติสตูต้า

ถ้าจะถามถึง สุดยอดตำนาน “ตีนหนัก” ที่สุดในโลกตลอดกาล เชื่อเลยว่า ร้อยทั้งร้อย จะต้องยกให้กับชายผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม ฟิออเรนตินา คนนี้ “กาเบรียล บาติสตูต้า”
หากใครทันดูฟุตบอลในยุคของเขา (ซึ่งก็ผ่านมาไม่นานเท่าไหร่) จะรู้ดีว่า ลูกยิงแต่ละลูกของเขานั้นหนักหน่วงและแม่นยำแค่ไหน บางลูกเห็นชัด ๆ ว่าผู้รักษาประตูอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเซฟได้ทัน 
แต่กว่าจะรู้ตัวบอลก็กระทบตาข่ายแทบขาดไปแล้ว (ถ้าเป็นสึบาสะก็คงขาดไปเลย)
และสิ่งที่ทำให้เขาเหนือกว่านักเตะเท้าหนักคนอื่น ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด ก็คือความคมที่เชื่อใจได้ร้อยเปอร์เซ็นจน บาติสตูต้า คนนี้กลายเป็นที่สุดของที่สุดแห่งตำนานกองหน้าบนโลกฟุตบอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น